วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Mac on PC

หลังจากที่เคยพยายามติดตั้ง Mac บน PC จริง ๆ โดยที่ไม่ผ่าน Virtual Machine ก็เจอปัญหาเกี่ยวกับ Driver หลายอย่าง รวมไปถึง Boot loader ด้วย วันนี้มีโอกาสได้ทดลองไฟล์ image ของ Mac บน VMWare 6.5 ก็สามารถใช้งาน Mac บน PC ได้แล้ว เป็น OSX Leopard version 10.5.5


แต่รู้สึกว่ามันอืดกว่า Windows 7 อีกแฮะ -_-"

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Ubuntu 9.10 on Virtual Box

หลังจากห่างหายจากการใช้ Linux ไประยะหนึ่ง วันนี้ ก็เลย load virtual Box บน Windows XP มาติดตั้ง Ubuntu 9.10 บ้าง หน้าจอการติดตั้งก็ดูสวยงามขึ้น ติดตั้งก็ไม่ยากอะไร แป๊บเดียวเสร็จ แต่หลังจากนั้น พอจะเริ่มใช้งาน ปรากฎว่าเจ้า Ubuntu ตัวนี้ มันดันหา Driver ของ การ์ดจอ Nvidia ไม่เจอ เลยกำหนดขนาดจอได้แค่ 800x600 ใช้งานขัดใจมาก

ก็เลยแก้ปัญหาโดยการติดตั้งพวก Nvidia driver ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพวก nvidia-glx-185, nvidia-xconfig, nvidia-setting และพวก dependency ของมัน แต่ก็ไม่สามารถจะใช้งานได้ ก็เลย ซ้ำร้ายไปกว่านั้นพอ restart เครื่องใหม่ จอกระพริบ ใช้งานไม่ได้เลย

ผมก็เลยหาข้อมูลเพิ่มใน internet ได้ความว่าต้องติดตั้ง VBoxGuestAdditions แต่ก็ยัง งงอยู่พักหนึ่งว่าไอเจ้า VBoxGuestAdditions เนี่ย มันอยู่ตรงไหน เพราะใน web ที่ให้ download virtual box ก็ไม่มีเจ้านี่ให้ download แต่จริง ๆ แล้วนั้น VBoxGuestAdditions มันติดมาอยู่แล้ว

วิธีการคือ ไปที่หน้าต่าง Virtualbox ที่เราลง Ubuntu (หลังจากที่เรา Boot เข้า Ubuntu ของเราเรียบร้อยแล้ว) จากนั้นเลือก menu Device -> Install Guest Additions (หรือกด Ctrl+D) มันก็จะ Mount CD-Rom ให้เราเรียบร้อย

จากนั้นสั่ง sudo /media/cdrom/VBoxLinuxAdditions.run

แล้วก็ restart เครื่องเป็นอันเสร็จครับ ได้ display ที่ resolution สูงแล้ว :-)

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

J2EE EJB OSGi

J2EE, EJB, OSGi อ่านมาตั้งนาน กว่าจะสรุปได้แบบนี้ -_-"

J2EE - Application Server Specification ที่สนับสนุนการทำ Load balancing, Transaction, Resource Polling และ Message Oriented Service

EJB - Component Architecture ที่ทำงานบน Application Server (ที่กล่าวข้างบน)

OSGi - Dynamic Modules (คิดง่าย ๆ ว่าเป็น jar ที่สามารถ deploy แบบ dynamic คือ start, stop ได้โดยที่ไม่กระทบกับ module อื่น ๆ )

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คุยเรื่อง MPLS


MPLS (MultiProtocol Label Switching) ส่วนใหญ่ใช้ใน Service Provider จุดประสงค์หลัก ๆ ของตัวนี้คือ การทำ Routing ที่รวดเร็ว โดยการทำ forwarding machanism ซึ่งได้จากติด Label ให้กับ packet ทำให้มีการ forward packet ได้เร็วกว่า แบบ traditional IP ซึ่งต้องมาเทียบกับตาราง routing table (จะทำงานช้า ถ้า routing table มีขนาดใหญ่) ส่วนการทำ QoS นั้นเป็นผลพลอยได้ หรือเป็นส่วนหนึ่ง ของ MPLS เท่านั้น (ไม่ใช่จุดประสงค์หลัก) MPLS ทำ ลูกเล่น ท่าต่างๆ ได้เยอะ

ปกติแล้ว เดิมเวลา ip routing ทำงาน มันต้อง lookup ใน routing table ซึ่ง เรียงเป็นหลายร้อยแถว ทำให้ต้องดู ไล่ตั้งแต่ 1 - บรรทัดที่ match แต่ พอเอาเข้ามาใน โลก MPLS มันเป็น label เหมือน ทำ index ให้มัน มันก็จะเร็วขึ้น ซึ่ง พวก forwarding ตอนใช้ label แล้ว มันจะทำ โดย Hardware แล้วมันจะเร็วกว่า

ถ้าใน service provider ที่มี internet routing เยอะๆ มาก ๆ แต่ถ้า routing น้อยๆ ไม่กี่สิบบรรทัด ก็ไม่จำเป็นเท่าไหร่ เพราะแทนที่จะเร็วขึ้น กลับต้องไปเสีย overhead เพิ่มในการแปะ label แทนมากกว่า

ท่าแปลกๆ ที่ทำงานได้อีก ก็เช่น MPLS VPN เช่น เรา เป็น provider แต่มี ลูกค้า A มีหลาย ๆ สาขา แล้วต้องการ Route ข้าม สาขา ให้แต่ละสาขา link ถึงกันได้ เมื่อก่อน อาจจะ ใช้ lease line แต่ MPLS มันเอา route proprogate ไปให้ได้

Traffic Engineering ก็ทำได้ ปกติ เวลา ip route best path มันจะคือ hop ที่สั้น แล้ว ถ้า routing วิ่ง มันก็จะวิ่งขาเดียว แต่ MPLS TE สามารถ utilize ได้ ให้บาง traffic วิ่งเส้นนึง ให้อีก traffic วิ่งอีกเส้น ทำได้

มีหลายท่า มันจะไม่เลือก best path อย่างเดียว เหมือน ip routing

พอทำ TE ก็มี Fast Reroute อีก ท่า Fast Reroute นี้ downtime 50ms ซึ่งต่ำมาก

MPLS เอามาตอบโจทย์ หลายๆ อย่างที่ traditional IP ทำไม่ได้ แต่จริงๆ พื้นฐาน อยู่บน ip routing เดิมทั้งนั้น

ท่ายากสุด ก็ MPLS TE + Fast Re route แล้วล่ะ เรื่องการ configure ควรจะมีพื้นฐานเกี่ยวกับ BGP มาก่อน

Credit: เม้ง
เรียบเรียง: pleX

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Dell XPS M1330

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว Notebook Dell XPS ผมเจ๊ง หน้าจอแสดงเป็นแถบเส้น ๆ บางทีก็มืดไปเลย หลังจากหาข้อมูลในเน็ตอยู่นาน จึงทราบว่าเป็นปัญหาจาก Graphic Card โชคดีของผมที่ยังเหลือประกันอีก 1 เดือน แต่โชคร้ายคือ ผมอยู่ที่ฝรั่งเศส กว่าจะโทรไปเรียกช่างมาซ่อมได้ ผมเพิ่งทราบว่าผมจะต้องทำการ Transfer Services Tag จาก เมืองไทย ไปที่ฝรั่งเศสก่อน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นได้ Services Tag ใหม่แล้วจึงค่อยติดต่อไป

เฮ้อ... อุตส่าห์เลือก Dell ที่มีประกัน World Wide แล้ว แต่ต้องรอเปลี่ยน Service Tag อีก (โทรไปถามที่เมืองไทย ได้คำตอบว่า ถ้าซื้อ Dell ที่ประเทศอื่นแล้ว เข้ามาประเทศไทย ช่างจะไป Service ได้เลย แต่ที่นี่ต้องเปลี่ยน :( อดใช้ Notebook ไปหลายวันเลย )

ดังนั้น ใครที่ซื้อ Dell จากไทย และจะหิ้วมาใช้ที่ฝรั่งเศสนาน ๆ ผมแนะนำให้เปลี่ยน Service Tag ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่ต้องรอซ่อมนะครับ

เปลี่ยนได้ที่ Link นี้ครับ =>
http://www.dell.com/content/topics/reftopic.aspx/pub/ccare/transfer_intl?c=us&cs=19&l=en&s=biz

ยังดี ที่ประกันยังไม่หมด

เบอร์โทรติดต่อ Dell ฝรั่งเศส: 08 25 38 71 29 (ไม่โทรฟรีด้วย)