วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Renew Récépissé

ในวันศุกร์นี้ Récépissé ของบีที่ได้มา มันใกล้จะหมดอายุแล้ว ทาง prefecture ก็ไม่ยอมส่งจดหมายมาให้สักกะที ไม่รู้ว่าช้าที่อะไร ก็เลยลองไป prefecture เองเลย เพื่อไปขอ Renew Récépissé ซึ่งใช้เอกสาร 3 อย่างคือ
1. Récépissé ตัวจริง
2. Passport ตัวจริง
3. รูปถ่าย ขนาดเกือบ 2 นิ้ว

ก็ต่อแถวประมาณเกือบ ๆ 1 ชม. (ซึ่งถือว่าเร็วแล้ว) ก็ถึงคิวเรา เค้าก็ได้ทำ Récépissé ให้ใหม่ โดยแจ้งว่าที่ยังไม่ได้รับ จม. ให้ไปรับ Carte de sejour ก็เพราะว่า ผมไม่ได้เอา จม. จาก prefecture ที่ต้องติดแสตมป์ 5 ดวง (275 ยูโร) ให้ Prefecture อ้าว?? แล้วกรูจะให้มรึงได้ตอนไหนวะเนี่ย? ก็หลังจากไปตรวจร่างกายที่ ANAEM เค้าก็บอกว่าให้รอ จม. เลย แล้วทาง ANAEM ก็ไม่ได้เก็บจม. นี้ไปด้วย ไม่เหมือนตอนของผมเอง ที่ได้ carte de sejour ที่ ANAEM เลย

เอาวะ ก็ไม่เป็นไร เพราะจะถามเค้าว่ายื่นเอกสารนี้ตอนไหนก็ลำบาก ก็ได้ข้อสรุปมาว่า เค้าบอกให้รออีกไม่น่าจะเกิน 1-2 เดือน ทาง prefecture จะส่ง จม. ให้ไปรับ carte de sejour ตัวจริง และก็ ออก Récépissé ให้ใหม่ ก็ O.K. ไว้ได้จม. จากทาง prefecture ค่อยมารับ carte de sejour อีกรอบครับ

ตากุ้งยิง

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บีเป็นตากุ้งยิง ผมก็ให้กิน Amoxyciline + ยาหยอดตา ที่พกมาจากเมืองไทย + เอาน้ำอุ่นประคบ ผ่านไปประมาณ 4-5 วัน ก็หายเป็นปรกติ ก็นึกว่าไม่เป็นไรแล้ว สักพัก กลับมาเป็นใหม่ ผมก็เลยตัดสินใจพาบีไปหาหมอ

ช่วงนั้นโชคดี ที่เราจัดการ LMDE เสร็จเรียบร้อยพอดี ทำให้เราสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ทั้งหมด เมื่อไปหา กว่าจะได้ตรวจก็รอคิวประมาณเกือบ ชม. การพูดคุยก็ค่อนข้างลำบาก เพราะ คิดว่าหมอพูดภาษาอังกฤษได้ ปรากฎว่า หมอดันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ต้องไปหาล่าม คือ คนไข้ คนอื่น มาช่วยพูดให้แทน (อะไรวะ อุตส่าห์เรียนจบหมอ พูดอังกฤษไม่ได้)

เมื่อตรวจเสร็จหมอก็จ่ายยาหยอดตา กับ ยาทาตามาให้ ก่อนที่จะมาหาหมอ ผมได้สอบถามเพื่อนที่เป็นหมอ และ เภสัช มาได้ คำแนะนำว่าให้กินยา Diclociline ซึ่งจัดเป็นยา Anti-Biotic (ยาฆ่าเชื้อ) ที่มีผลกับโรคตาแดงโดยตรง ส่วน Amoxy นั้น ช่วยเพียงแค่ประมาณ 20% เท่านั้น แต่หมอ ไม่ยอมจ่ายยาตัวนี้ให้ เหมือนกับที่เพื่อนบอกว่าไว้เลย ว่าหมอที่นี่ แม่ง จ่ายยาฆ่าเชื้อยาก ต้องให้เราเป็นหนัก ๆ ก่อน คือ ลองให้ร่างการรักษาตัวเอง ก่อน ถ้าไม่ไหวจริง ๆ จึงจะจ่าย

เมื่อตรวจเสร็จแล้วก็จ่ายค่าตรวจไป 22 ยูโร โดยผมออกเงินไปก่อน แล้วค่อยไปเบิกกับ LMDE คืนทีหลัง ก็ได้ไบสั่งยา จากนั้นก็นำไปซื้อยาที่ร้านขายยาทั่วไป ก็ได้ยามาฟรีเลย ร้านเคยยา พอเห็นประกันที่ทำกับ LMDE เค้าก็ไม่เก็บเงินเลย คนในร้านขายยาก็ยังพูดภาษาอังกฤษได้บ้างดีจังเลย ค่ายาหยอดตา กับ ยาทา ประมาณ 10 ยูโร นี่ ถ้าเทียบกับบ้านเราเนี่ย ไม่น่าจะเกิน 100 บาทนะ

หลังจากทาไปได้สักพัก อาการก็ดีขึ้นเหมือนจะหายแล้ว แต่ก็ยังไม่หายสักกะที เดี๋ยววันพรุ่งนี้จะลองไปหาหมออีกรอบครับ